Rurouni Kenshin ซามูไรพเนจร

Rurouni Kenshin ซามูไรพเนจร

Rurouni Kenshin ซามูไรพเนจร กลายเป็นที่พูดถึงกันปากต่อปากไปแล้ว สำหรับการ์ตูนเรื่องดังในอดีตอย่าง “ ซามูไรพเนจร ” ที่มีโอกาสได้สร้างเป็นหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์เมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา และจะมีภาคสองอีกด้วย จึงขอพาชาว Mangatoonbook ไปย้อนความหลังกับ มังงะ แห่งยุค 90 ที่ได้ชื่อว่าสนุกครบรส ทั้งตลก บู๊ล้างผลาน ความรัก และ ดราม่าเรียกน้ำตา กับการ์ตูนเรื่องนี้กันอีกครั้ง

เนื้อเรื่องจะเล่าถึง “ ฮิมุระ เคนชิน ” ซามูไร เร่ร่อนที่มีอดีตเป็นถึง “สุดยอดมือสังหารของคณะปฏิวัติ” เจ้าของฉายา “มือพิฆาตบัตโตไซ” ที่วางมือหลังจากสงครามสมัยปฏิวัติเมจิจบลง เขาได้สำนึกผิดต่อทุกชีวิตที่ตัวเองได้สังหารไป รวมไปถึง “ประเด็นของโทโมเอะ”ด้วย

“ฮิมุระ เคนชิน” ชายหนุ่มวัย 28 ปี ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ได้มาพบกับ “คามิยะ คาโอรุ” สาวน้อยวัย 16 ปี ที่ต้องรับภาระดูแลโรงฝึกดาบ คามิยะ คัตชินริว ทำให้ เคนชิน ได้วางมือจากการฆ่าคนมาใช้ชีวิตเป็นคนจรจัด จนกระทั่งได้มาพบกับครูฝึกดาบสาว “คามิยะ คาโอรุ” เจ้าของสำนักคามิยะคัตชินริว (จากการเข้าใจผิด คิดว่าเป็นบัตโตไซ ที่เป้นผู้ก่อกวนสำนักดาบต่างๆในขณะนั้น)

ชื่อเสียงของเคนชินในฐานะ “มือสังหาร” ก็ยังเลื่องลือไปถึงผู้คนในรัฐบาล แม้แต่ผู้นำกองกำลัง “อิชินชิชิ” ทหารแห่งองคพระจักพรรดิ์ที่แกร่งที่สุดในตอนนั้น นำโดย “พลเอก ยามากาตะ อาริโมโตะ” ยังอยากให้เคนชินกลับไปร่วมงาน แต่เคนชินก็เลือกที่จะอยู่กับ คาโอรุ ในฐานะพ่อบ้านมากกว่า

และตัวของคาโอรุก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจ จนต้องหยุดการเดินทางเร่ร่อนไร้จุดหมายลงด้วยการมาขออยู่กับคาโอรุและคอยช่วยงานจิปาถะในโรงฝึกดาบเล็กๆนี้ ถึงแม้จะมีผู้คนจากที่ต่างๆ มาคอยประมือกับเคนชิน แต่เขาก็ไม่เคยฆ่าใครเลย และชีวิตเรื่อยเปื่อยของเคนชิน ก็ได้พบกับผู้คนมากมายเช่น “ซางาระ ซาโนสุเกะ” นักบู๊ข้างถนน ผู้มีอดีตอันแสนเศร้า , “เมียวยิน ยาฮิโกะ” ศิษย์คนแรกของคาโอรุ , “ทากานิ เมกุมิ” หมอเถื่อนผู้มีอดีตอันลึกลับ รวมถึง “ชิโนโมริ อาโอชิ” และ “ไซโต้ ฮาจิเมะ” ที่เปลี่ยนชื่อเป้น “ฟุจิตะ โกโร่”

และเหตุการณ์ต่างๆ ก็ถูกเล่าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งไฟแค้นในอดีต ได้ย้อนกลับมาพบกับ เคนชิน อีกครั้ง นับเป็นภาคที่อ่านสนุกที่สุดแล้ว ในบรรดา 3 บทหลักของเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน ชิชิโอ มาโคโตะ อดีตมือสังหารรุ่นน้องของเคนชิน ที่ถูกลอบสังหารและเผาศพไป แต่ก็รอดชีวิตกลับมาจากความตายได้ และตอนนี้เขากลับมาเพื่อล้างแค้นคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ อีกทั้งยังมีแผนชั่วร้ายที่จะครอบครองแผ่นดินญี่ปุ่นอีกด้วย

ไซโต ฮาจิเมะ หัวหน้ากลุ่มชินเซ็นกองที่สาม ผู้ได้รับสมยานามว่าหมาป่าแห่งมิบุ ซึ่งปัจจุบันได้ทำหน้าที่เป็นสายสืบให้กับตำรวจสันติบาล กำลังสืบสวนเรื่องของมือสังหารของคณะปฏิวัติอีกคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ชิชิโอ มาโคโตะ อดีตมือสังหารรุ่นน้องของ เคนชิน ซึ่งคาดว่าเค้ากำลังเตรียมแผนก่อการปฏิวัติอยู่ แต่ทว่าการเสียชีวิตของบุคคลสำคัญอย่างโอคุโบ โทชิมิจิ เสนาบดีฝ่ายมหาดไทย ทำให้เกิดความวุ่นวายของยุคสมัยนั้นขึ้นมา มีเพียง เคนชิน และพรรคพวกของเขาเท่านั้นที่จะหยุดเหตุการได้

จากเหตุการณ์ลอบสังหาร “โอคุโบ โทชิมิจิ” เสนาบดีฝ่ายมหาดไทยโดยฝีมือของ “ดาบสวรรค์” เซตะ โซจิโร่ สมุนมือดีระดับเทพของชิชิโอ ทำให้เคนชินไม่อาจอยู่เฉยได้ เขาจึงเดินทางยังเกียวโตเพื่อยับยั้งแผนการปฏิวัติของชิชิโอให้ได้ (เพราะเคนชินถือว่า ที่ชิชิโอเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเขาด้วยส่วนหนึ่ง) ขณะเดียวกันชิชิโอก็เรียกกองกำลัง “จุปปงคาตานะ” (สิบดาบมรณะ) ซึ่งเป็นหน่วยยอดฝีมือพิเศษ 10 คนของตัวเองออกมารับมือกับเคนชินด้วย และจุปปงคาตานะ หรือในชื่อสิบดาบมรณะ สุดยอดมือสังหาร 10 คน ที่ทำงานให้กับชิชิโอ แต่ละคนนั้นร้ายกาจด้วยท่วงท่าเฉพาะของแต่ละคนที่ยากจะรับมือ

ทางด้านซาโนสุเกะก็ได้ออกติดตามเคนชินมาที่เกียวโตเพื่อช่วยเหลือเคนชินอีกแรง ขณะที่ยาฮิโกะกับคาโอรุก็เดินทางมาหาเคนชินเช่นกัน(แต่มาคนละเส้นทาง) ระหว่างการเดินทางเคนชินพบกับ “มากิมาจิ มิซาโอะ” สาวน้อยแห่ง “กลุ่มโอนิวาบัง” และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มโอนิวาบัง ทำให้พวกของเคนชินสามารถป้องกันแผนเผากรุงเกียวโตเพื่อก่อความวุ่นวายได้สำเร็จ ในขณะที่ตัวชิชิโอและผู้ใกล้ชิดเตรียมนำเรือดำ “เรนโกกุ” เข้าอ่าวโตเกียวเตรียมยิงถล่มด้วยปืนใหญ่ เพื่อสร้างความวุ่นวาย แต่ในที่สุดเรือเรนโกกุ ก็ถูกระเบิดมือของซาโนสุเกะทำลายเสียหายจนต้องเลิกล้มแผนการบุกยึดอ่าวโตเกียวไป (จริงๆกะวิ่งบนผิวน้ำ ไปต่อยเรือด้วยซ้ำ แต่จังหวะถูกยิงปืนกลสวนมาก่อน เลยทำได้แค่ปาระเบิดใส่)

ชิชิโอจึงพา จุปปงคาตานะ ที่เหลือกลับไป และท้าทายให้เคนชินมาสู้กับตนเองถึงฐานทัพของตน เพื่อตัดสินให้ถึงขั้นแตกหักใน และในเวลาต่อมาในศึกสุดท้าย ยูมิ คนรักของ ชิชิโอ ได้เสียสละชีวิตของตนเพื่อให้ชิชิโอแทงทะลุร่างตนเองเพื่อโจมตีเคนชิน แต่ชิชิโอใช้ร่างกายมากเกินรับไหว ทำให้ความร้อนในตัวพุ่งสูงขึ้น จนถูกเผาตายไปเองในเวลาต่อมา หลังจากเสร็จศึกในครั้งนั้น เหล่าจุปปงคาตานะ บางส่วนก็หายสาปสูญไปและแยกย้ายกันออกเดินทางไปตามทางของแต่ละคน เช่น “ดาบสวรรค์ โซจิโร่” กับ “อิวังโบ” เองก็ไม่สามารถหาตัวพบได้อีก

ส่วนคนอื่นๆ นันก็ได้กลับไปทำตามที่ตนเองต้องการในบั้นปลายของชีวิต

1. “โจ นักล่าดาบ” ก็ไปเป็นสายลับให้สันติบาล ได้ทำงานร่วมกับ “ไซโต้ ฮาจิเมะ”

2. “ปีกเวหา เฮนยะ” ก็ได้ทำหน้าที่เป็นหน่วยลาดตระเวณทางอากาศ

3. “คนยักษ์ ฟุจิ” กลับไปทำไร่นาที่บ้านเกิด

4. “เคียวยักษ์ คามาทาริ” เลือกที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เพื่อที่จะเล่าวีรกรรมของ ชิชิโอ ต่อไป

5. “นักบวชเถื่อน อันจิ” ก็ได้รับโทษจำคุกที่ฮอกไกโด 25 ปี

6. “เสนาธิการ โฮจิ” เพื่อนคู่คิดของ ชิชิโอ ก็ได้จบชีวิตตัวเองลงในคุก

และทุกคนในกลุ่มของเคนชิน ได้พากันกลับโตเกียว และไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในเวลาต่อมา